ประเด็นร้อน

บททดสอบสกัดโกง 360 องศา!!

โดย ACT โพสเมื่อ Jan 04,2018

- - สำนักข่าวเดลินิวส์ - -

คอลัมน์ สถานการณ์ร้อน

 

เริ่มต้น "ปีจอ" ก็มีคิวให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องโชว์สเต็ปฟุตเวิร์กโยกหลบปมร้อน เรื่อง "ลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว"

 

ที่ตามท้องเรื่อง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ประเดิมต้นปี 2561 ยื่นเรื่องร้องเรียน ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ไปตรวจสอบและลงโทษนายกรัฐมนตรี

 

จากกรณีช่วงปลายปี 2560 ในระหว่างท่านผู้นำลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.พิษณุโลก ได้ซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว 3 ตัว ในราคาตัวละ 6,000 บาท เพื่อนำ ไปเลี้ยงเฝ้าบ้าน 1 ตัว และแจกให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่า จินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะรองนายกรัฐมนตรี คนละ 1 ตัว

 

ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "กฎหมาย ป.ป.ช." มาตรา 103 มีเนื้อหาสรุป "ห้าม" เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท เพื่อป้องกันการทุจริต

 

หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ!!

 

ขณะที่ท่านผู้นำก็โชว์ลีลาเขี้ยวลากดินตามแบบฉบับนักการเมืองไทย เด้งเชือกหลบปมร้อน โดยยอมรับซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว 3 ตัวจริงแต่อ้างยังไม่ได้รับมอบ และหาก ใครอยากเอาไปเลี้ยงก็ต้องมาซื้อต่อ

 

แม้เบื้องหน้าปมเรื่องสุนัขพันธุ์บางแก้วจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะท่านผู้นำสามารถเด้งเชือก โยกหลบได้หลายช่องทาง

 

แต่เบื้องหลังมันได้สะท้อนว่าเส้นทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ นับจากนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เนื่องด้วย 2 ปัจจัยสำคัญ

 

1. ท่ามกลางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ไม่เข้าตากรรมการ ผู้คนเริ่มกินไม่อิ่มนอนไม่หลับ เกิดสภาวะรวยกระจุกจนกระจาย ประกอบกับมีกระแสข่าวความไม่ชอบมาพากลสารพัดโครงการ ส่งผลให้ทุกฝีก้าวของท่านผู้นำรวมไปถึงเครือข่ายแม่น้ำ 5 สายถูกสังคมเฝ้าจับตาและตรวจสอบมาก ยิ่งขึ้น

 

ยกตัวอย่างกรณีโลกออนไลน์ช่วยกันแฉที่มาของแหวนเพชร และนาฬิกาหรูหลายเรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกระทั่ง "บิ๊กป้อม" ต้องยอมส่งหนังสือชี้แจงป.ป.ช.และอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานเกี่ยวข้อง

 

2. รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ได้ถูกเขียนขึ้นมาบนพื้นฐานการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ตามแนวคิด คสช. ส่งผลให้มีการวางยาแรงเพื่อสกัด การทุจริตคอร์รัปชั่นชนิดเต็มรูปแบบ

 

ยกตัวอย่างมีการเขียน"มาตรฐานจริยธรรม"ใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปจนถึง ส.ส.และส.ว. รวมไปถึงองค์กรอิสระต่าง ๆหากใครล้ำเส้น ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที

 

คู่ขนานกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)อยู่ระหว่างคลอด "กฎหมาย 4 ชั่วโคตร" หรือชื่อเต็มคือ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ที่ห้ามญาติพี่น้องสี่ลำดับรับผลประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เพื่ออุดช่องโหว่ทุจริต

 

หากใครฝ่าฝืนมีลุ้นถึงขั้นติดคุกติดตะราง !!

 

ห้วงเวลาที่เหลือนับจากนี้ บอกได้คำเดียว มาตรการคุมเข้มสกัดโกงแบบ 360 องศา มันจะย้อนกลับมาเป็นบททดสอบท่านผู้นำและเครือข่ายแม่น้ำ 5 สายที่ต้องประเดิมทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีตามกฎกติกาที่พวกตัวเองเขียนขึ้น

 

และอย่าลืมว่าหากปฏิบัติตัว "สองมาตรฐาน" ท้ายสุดจะเกิดวิกฤติศรัทธา สร้างวังวนปัญหาขัดแย้งในสังคมไทยไม่มีที่สิ้นสุด!!.


 
 
 
 
 
 
 
 
 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw